ภูมิภาคยุโรปกลางเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปเป็นอย่างยิ่ง เห็นได้จากโครงการลงทุนภายในภูมิภาคจำนวนมากซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ฉะนั้นภูมิภาคนี้จึงเป็นโอกาสอันดียิ่งสำหรับนักลงทุนและนักธุรกิจชาวไทยที่แสวงหาโอกาสในการลงทุนในสหภาพยุโรป
เมื่อวันจันทร์ที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา คณะผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศวิแชกราด 4 อันประกอบด้วยสาธารณรัฐเช็ก ประเทศฮังการี สาธารณรัฐโปแลนด์ และสาธารณรัฐสโลวัก รวมถึงผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐออสเตรีย ได้เข้าร่วมการประชุมและจัดการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “Business and Investment Opportunities in Central Europe” (โอกาสทางธุรกิจและการลงทุนในภูมิภาคยุโรปกลาง) ในการประชุมกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยครั้งที่ 1/2561 เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการความร่วมมือในภุมิภาคยุโรปกลาง ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมร่วมของกลุ่มประเทศวิแชกราด รวมถึงโอกาสด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ อันจะเป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนชาวไทยเป็นอย่างมาก
ภูมิภาคยุโรปกลาง ตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรป ระหว่างยุโรปตะวันออก และยุโรปตะวันตก ปัจจุบันภูมิภาคนี้ได้พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานให้สะดวกสบายยิ่งขึ้นเพื่อรองรับการเป็นจุดเชื่อมโยงโครงข่ายการขนส่งสินค้า นอกจากนั้น ภูมิภาคยุโรปกลางยังเป็นแหล่งพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูงและแรงงานทักษะสูง อันเป็นจุดเด่นที่นักลงทุนจากเอเชีย รวมถึงนักลงทุนไทยควรพิจารณาให้ความสำคัญ
ในการนี้ เอกอัครราชทูต ดร. ปีเตอร์ ยาคอป ได้นำเสนอข้อดีหลายประการในการเลือกลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศฮังการี โดยยกตัวอย่างโครงการลงทุนจากประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จในฮังการี พร้อมทั้งเสริมว่าประเทศฮังการีในปัจจุบันมีปัจจัยที่เอื้อต่อการรองรับการลงทุนจากนานาชาติ ด้วยประเทศฮังการีนับว่ามีความปลอดภัยและเสถียรภาพสูง เศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลเพียงแค่ร้อยละ 9 เท่านั้น ยิ่งกว่าไปนั้น รัฐบาลฮังการียังพร้อมสนับสนุนสิทธิประโยชน์ให้กับบริษัทที่เข้ามาลงทุนในประเทศ ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนการเคลื่อนย้ายแรงงานและระบบการศึกษาแบบทวิศึกษา (Dual Education) ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดการศึกษาที่เน้นให้นักเรียนนักศึกษาได้ฝึกงานวิชาชีพระหว่างการเรียน อันเป็นผลดีกับตลาดแรงงานที่จะได้แรงงานคุณภาพเข้ามาในระบบมากขึ้น
ที่ผ่านมา มีนักลงทุนรายใหญ่จำนวนมากได้เข้ามาลงทุนในประเทศฮังการี รวมถึงบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ที่ได้ขยายกำลังการผลิตด้วยการลงทุนซื้อกิจการโรงงานผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศฮังการี